วิธีเลือกซื้อตู้เสื้อผ้า ให้ถูกใจผู้ใช้งาน

“ตู้เสื้อผ้า ” เป็นเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานที่ควรมีทุกบ้าน เนื่องจากตู้เสื้อผ้าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยจัดระเบียบบ้านไม่ให้รก ไม่ให้เกะกะสายตา ไหนจะช่วยป้องกันฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อาจจะทำให้เสื้อผ้าที่ซักเสร็จใหม่ๆ มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เร็ว แต่การเลือกตู้เสื้อผ้าที่มีหลากหลายแบบ หลากหลายสไตล์ ทำให้การเลือกให้เหมาะกับจุดประสงค์การใช้งาน เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านต้องเลือกอย่างไร ต้องดูจากปัจจัยไหนบ้าง ในวันนี้ Asfurniture จะมาแนะนำเคล็ดลับง่ายๆ ในการเลือกซื้อตู้เสื้อผ้าให้ถูกใจผู้ใช้งาน

5 เคล็ดลับง่ายๆ ในการเลือกซื้อตู้เสื้อผ้า ให้ตอบสนองความต้องการของเรา

1. วัสดุที่ใช้ผลิตผู้เสื้อผ้า

ตู้เสื้อผ้านอกจากดีไซน์ที่สวยงามแล้ว การเลือกวัสดุให้เหมาะกับจุดประสงค์การใช้งาน เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และความแข็งแรงทนทาน ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ แต่ตู้เสื้อผ้าที่ทำมาจากวัสดุหลากหลายชนิด การจะเลือกวัสดุที่ใช้ผลิตตู้เสื้อผ้าให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานควรดูจากปัจจัย ดังนี้

• ไม้จริง เป็นวัสดุที่เหมาะกับคนที่อยากได้ตู้เสื้อผ้าโทนอบอุ่นดูเป็นธรรมชาติ แข็งแรงทนทาน และจะต้องแต่งบ้านสไตล์มินิมอล สไตล์ร่วมสมัย สไตล์โบฮีเมียน ฯลฯ เท่านั้น ถึงจะดูกลมกลืนไปกับภายในบ้าน
• เหล็ก เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานมากที่สุด เหมาะกับคนที่แต่งบ้านสไตล์ลอฟท์
• พลาสติก เป็นพลาสติกที่มีน้ำหนักเบาน้อยที่สุด ตู้เสื้อผ้าที่ทำมาจากพลาสติกจึงไม่เหมาะกับการเก็บสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก เพราะอาจจะก่อให้เกิดการแตกหักได้ง่าย
• ไม้ปาร์ติเคิล เป็นตู้เสื้อผ้าที่มีราคาถูกกว่าไม้จริง เนื่องจากมีการใช้ไม้จริงในการผลิตแค่บางส่วนเท่านั้น ความแข็งแรงทนทานยังไม่เท่าไม้จริง แต่ความสวยงามนั้นไม่ต่างกันมาก เหมาะกับบ้านสไตล์มินิมอล สไตล์วินเทจ สไตล์สแกนดิเนเวีย ฯลฯ

2. สิ่งของที่ใช้เก็บในตู้เสื้อ

บางคนอาจจะซื้อตู้เสื้อผ้าเพื่อเก็บเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียว บางคนซื้อตู้เสื้อผ้ามาแล้วไม่ได้เอามาเก็บเพียงแค่เสื้อผ้า แต่เอามาเก็บกระเป๋า หมวก รองเท้า หรือเครื่องประดับต่างๆ อีกด้วย เพื่อให้ตู้เสื้อผ้าสามารถเก็บสิ่งของต่างๆ ได้ทั้งหมด โดยที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ก่อนที่จะซื้อตู้เสื้อผ้าควรตรวจสอบก่อนว่าสิ่งของที่ต้องการเก็บในตู้เสื้อผ้านั้นมีอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้เลือกตู้เสื้อผ้าที่มีช่องเก็บของให้เหมาะสมกับการใช้งาน

3. ประเภทของตู้เสื้อผ้า

ตู้เสื้อผ้ามีให้เลือกทั้งหมด 2 ประเภท คือ

• ตู้เสื้อผ้าแบบ Fit in เป็นตู้เสื้อผ้าที่สามารถแก้ไข หรือเคลื่อนย้ายเพื่อไปติดตั้งที่อื่นได้ แต่ดีไซน์อาจจะดูไม่ค่อยแปลกใหม่สักเท่าไร
• ตู้เสื้อผ้าแบบ Built in เป็นตู้เสื้อผ้าที่ไม่สามารถแก้ไข หรือเคลื่อนย้ายเพื่อไปติดตั้งที่อื่นได้ เนื่องจากมีการผลิตออกมาให้มีขนาดเท่ากับพื้นที่ที่ต้องการจัดวางในครั้งแรก เหมาะกับคนที่ต้องการตู้เสื้อผ้าดีไซน์เก๋ๆ มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

4. ลักษณะของบานประตูตู้เสื้อผ้า

• บานเลื่อนหรือบานสไลด์ เป็นลักษณะของบานประตูที่เหมาะกับคอนโดหรือห้องพักที่มีพื้นที่จำกัด เพราะเวลาเปิดตู้เสื้อผ้าจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะชนกับเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่รอบๆ
• บานเปิด เป็นลักษณะของบานประตูที่เราเห็นตามบ้านเรือนทั่วไป หาซื้อง่าย ทำความสะอาดง่าย ราคาไม่แพง เหมาะกับบ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่กว้าง เวลาจะเปิดตู้เสื้อผ้าจะได้ไม่ต้องกังวลว่าชนกับเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่บริเวณรอบๆ จนก่อให้เกิดการชำรุดเลย

5. ขนาดของตู้เสื้อผ้า

หลังจากที่เราได้รู้ประเภท วัสดุ จำนวนประตู และสิ่งของที่ต้องการเก็บในตู้เสื้อผ้าแล้ว ต่อมาเรามาดูกันที่ขนาดของตู้เสื้อผ้า (ความกว้าง x ความยาว x ความสูง) ที่จะต้องมีขนาดเหมาะสมไม่ใหญ่ ไม่กว้าง ไม่สูง จนเกะกะหรือขวางทางมากเกินไป